คุณหยางซวงจึ เป็นนักเขียนนวนิยายชาวไต้หวัน นักวิจัยด้านวรรณกรรมมวลชน และวัฒนธรรมย่อย ชื่อจริงคือ หยางรั่วฉือ โดยชื่อ "หยาง ซวงจึ" เป็นนามปากกาที่ใช้ร่วมกันกับน้องสาวฝาแฝดคือ หยางรั่วฮุย (Yang Jo-hui, ปี 1984-2015) ซึ่งคำว่า "双子" เป็นตัวอักษรคันจิในภาษาญี่ปุ่นซึ่งหมายถึง "ฝาแฝด"
ประมาณปี 2008 หยางรั่วฉือ (楊若慈) และหยางรั่วฮุย (楊若暉) ต่างก็เริ่มหลงใหลในวัฒนธรรมยูริ "วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์รักระหว่างผู้หญิง" โดยน้องสาวมุ่งเน้นไปที่การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมนี้ ในขณะที่พี่สาวหันมาสร้างสรรค์ผลงานที่เกี่ยวกับความรักระหว่างเพศหญิง ในวัฒนธรรม ACG (อนิเมะ, มังงะ, และเกม) คำว่า "ยูริ yuri" มีความหมายที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงที่มีความสนิทสนม "มากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นคนรัก คำว่า "ยูริ yuri" มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งปี 2004 มีการก่อตั้ง "ฟอรัมยูริ" ขึ้นในแวดวงที่ใช้ภาษาจีนกลาง ทำให้วัฒนธรรมย่อยอย่าง "ยูริ yuri” ค่อย ๆ แพร่หลายและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในไต้หวัน
ในช่วงที่ทั้งคู่ศึกษาในระดับปริญญาโท หยางรั่วฉือ (楊若慈) ได้เลือกที่จะศึกษาเฉพาะทางด้านวรรณคดีไต้หวัน ในขณะที่หยางรั่วฮุย (楊若暉) นั้นสนใจศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องและแม่นยำ ก่อนเริ่มต้นการสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งสองคนใช้เวลานานกว่า 6 เดือน ในการค้นคว้าเอกสารทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ และจัดทำฐานข้อมูล พี่น้องฝาแฝดทั้งสองยังมีความฝันอยากจะเปิดสำนักพิมพ์เล็ก ๆ ของตัวเอง โดยเน้นการตีพิมพ์นวนิยายแนว "ยูริ yuri” เพื่อให้วัฒนธรรม "ยูริ yuri” เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากขึ้นในประเทศ แต่ก่อนที่ความฝันนั้นของทั้งสองจะกลายเป็นจริงนั้น น้องสาวก็ต้องเผชิญกับโรคมะเร็งในปี 2009 และเสียชีวิตไปในปี 2015
พี่สาวคือคุณหยางรั่วฉือ楊若慈 ได้ใช้นามปากกาว่า หยางซวงจึ楊双子และได้ตีพิมพ์นวนิยายแนว "ยูริ yuri” เรื่องแรกชื่อว่า "The Man Scooping up the Moon" ในปี 2016 หลังจากนั้น ในปี 2017 และ2018 หยางซวงจึ楊双子ได้ตีพิมพ์นวนิยายเรื่องยาว ได้แก่ เรื่อง "The Season When Flowers Bloom" และนวนิยายรวมเรื่องสั้นเรื่อง "Blossoming Girls of Gorgeous Island" และในปี 2020 ก็ได้ตีพิมพ์นวนิยายเรื่อง "บันทึกการท่องเที่ยวไต้หวัน" ซึ่งนิยายแนว "ยูริ yuri” ทั้งสามเล่มนี้ต่างก็มีฉากหลังเป็นช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือช่วงที่ไต้หวันอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น
นวนิยายเรื่อง "The Season When Flowers Bloom" ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของนักเขียนหยางซวงจึ楊双子 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายชื่อเดียวกันของหยางเชียนเห่อ楊千鶴 (ปี 1921—2011)) เธอเป็นนักข่าวหญิงคนแรกของไต้หวันในยุคที่อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น เรื่องราวมีฉากหลังคือไต้หวันช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางยุคสมัยอย่างรุนแรง และเป็นช่วงที่กลุ่มสตรีกำลังก้าวผ่านฤดูดอกไม้บานในชีวิตของพวกเธอ หนังสือเล่มนี้นำเสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งของยุคอาณานิคมญี่ปุ่น ผ่านสายตาของผู้หญิง ซึ่งสตรีเหล่านี้ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องจิตวิญญาณของชนชาติหรืออัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์
"Blossoming Girls of Gorgeous Island" เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นภาคแยกมาจากนวนิยายเรื่อง "The Season When Flowers Bloom" โดยมีการจัดประเภทให้อยู่ในหมวดหมู่ของนิยาย ยูริ yuri เชิงประวิติศาสตร์ไต้หวัน และยังเป็นการแสดงความเคารพต่อวรรณกรรมไต้หวันในยุคที่ญี่ปุ่นปกครอง ในหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ ได้สร้างสรรค์ผลงานโดยมี ยูริ yuri เป็นแก่นเรื่องหลัก โดยพรรณนาถึงมิตรภาพและความปรารถนาระหว่างผู้หญิงรักต่างเพศ ฉากหลังของเรื่องถูกกำหนดไว้ในช่วงกลางทศวรรษที่1910 ถึงกลางทศวรรษที่ 1940 ซึ่งบรรยายให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของไต้หวันในยุคที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น
"บันทึกการท่องเที่ยวไต้หวัน" เล่าเรื่องราวของ2หญิงสาวชาวญี่ปุ่นและไต้หวัน ที่เติบโตมาในวัฒนธรรมและการอบรมเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ด้วยพรหมลิขิตจึงได้บังเอิญได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟสายหลักของไต้หวันเพื่อลิ้มลองอาหารรสเลิศด้วยกัน ในระหว่างการเดินทาง พวกเธอได้แลกเปลี่ยนความคิด และวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน หยางซวงจึ楊双子 ใช้เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารในการเปรียบเทียบและสื่อความหมาย เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพความขัดแย้งต่าง ๆ ที่จักรวรรดิญี่ปุ่นมีต่อไต้หวันในฐานะอาณานิคม รวมถึงชาวญี่ปุ่นในประเทศและชาวไต้หวันที่อาศัยบนเกาะไต้หวัน และความแตกต่างในโชคชะตาของผู้ชายและผู้หญิงในสมัยนั้น เมื่อผู้หญิงพยายามจะเป็นปัจเจกบุคคลที่ต้องการมีอาชีพและความคิดเป็นของตนเอง ก็จะต้องเผชิญกับอุปสรรคและการทดสอบมากมาย
ในบทสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง ของหยางซวงจึ 楊双子" เธอได้กล่าวถึงว่า "หากเราลองไปศึกษาบทความหรือวรรณกรรมเก่า ๆ จะพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงมักจะถูกนำเสนอผ่านมุมมองของผู้ชายเสมอ" ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายเรื่องราวจากมุมมองของผู้ชาย หรือการดำเนินเรื่องราวโดยผู้ชายเป็นตัวละครหลัก เธอก็อธิบายว่า "ผู้ชายยังคงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการดำเนินเรื่อง ดังนั้น ในเรื่องราวเหล่านี้ ผู้หญิงจึงต้องแข่งขันกันเพื่อสิ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักของพระเอก เงินตรา หรืออำนาจ พวกเธอต้องพยายามดึงดูดความสนใจของพระเอกให้ได้"
หยางซวงจึ 楊双子เชื่อว่าวรรณกรรมแนว ยูริ Yuri นั้นมีพลังในการสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เธอวิเคราะห์ว่า ในสื่อบันเทิงต่าง ๆ บทบาทของตัวละครหญิงมักจะเป็นการตกหลุมรัก หรือถูกมองว่าเป็นรางวัลของตัวละครชาย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงด้วยกันมักจะถูกนำเสนอในแง่ลบ เช่น การแข่งขันเพื่อช่วงชิงความรักของพระเอก เธอกล่าวอีกว่า "แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงควรมีความหลากหลาย ฉันรู้สึกว่ามีหลายความรู้สึกที่ไม่สามารถนิยามด้วยคำพูดได้ อาจจะผสมผสานไปด้วยความชอบ ความอิจฉา ความริษยา ซึ่งไม่ได้จำเป็นต้องเป็นความรักเสมอไป" เธอเชื่อว่า หากเราสามารถเห็นมิตรภาพระหว่างผู้หญิงที่ซับซ้อนและลึกซึ้งในผลงานต่าง ๆ ก็อาจจะช่วยให้เราเปิดจินตนาการใหม่ ๆ เกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในชีวิตจริงได้
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 หยางซวงจึ 楊双子และผู้แปลจินหลิง金翎 ได้รับรางวัลสูงสุดในสาขาวรรณกรรมแปลจากรางวัลหนังสือแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Book Awards) จากผลงานเรื่อง 'Taiwan Travelogue' กลายเป็นวรรณกรรมไต้หวันเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้